ผ้าขนหนูโรงแรมมีจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ทุกๆ โรงแรมจำเป็นต้องรักษาไว้ให้ได้นอกจากความสะอาดแล้วก็คงเป็นความนุ่มฟูเนี่ยแหละ แต่คำถามที่ตามมาก็คือ โรงแรมทำอย่างไรให้ผ้าขนหนูยังคงความนุ่มฟูได้แม้จะผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก?
ปัจจัยที่หลายๆ โรงแรมนำมาปรับใช้กันก็จะมีหลากหลายวิธี วันนี้เราเลยจะมาลองดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้างที่ทำให้ผ้าขนหนูโรงแรมยังคงความนุ่มฟูได้นานที่สุด
วิธีที่ทำให้ผ้าขนหนูโรงแรมคงความนุ่มฟูได้นาน
คุณภาพของผ้า
ถ้าเรามีพื้นฐานดีอยู่แล้ว การจะต่อยอดจากจุดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก หลายๆ โรงแรมจึงพิจารณาจากผ้าที่นำมาตัดเย็บผ้าขนหนูเลย โดนปกติแล้วเราจะทราบกันดีว่าผ้าขนหนูส่วนมากจะทำมาจากผ้าฝ้าย แต่ทุกคุณรู้หรือไม่ว่าอะไรที่มีคุณภาพดีกว่าผ้าฝ้ายปกติ? ผ้าฝ้ายอียิปต์และผ้าฝ้ายตุรกียังไงล่ะ
แน่นอนว่าผ้าฝ้ายทั้งสองแบบก็จะมีราคาที่แพงกว่าผ้าฝ้ายทั่วไป แต่สำหรับโรงแรมที่ใส่ใจทุกความละเอียดแล้ว ผ้าฝ้ายอียิปต์และผ้าฝ้ายตุรกีจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ด้วยความที่เป็นฝ้ายที่มีเส้นใยยาวกว่าฝ้ายปกติทำให้สามารถนำไปถักทอให้ตัวผ้ามีความนุ่มลื่นและทนทานกว่าเพราะมีรอยต่อที่น้อยกว่าฝ้ายแบบอื่นๆ นั่นเอง
วิธีการทอ
นอกจากคุณภาพของเส้นใยผ้าแล้ว เทคนิคการทอก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยปกติเราจะใช้วิธีการทอที่เรียกว่าการทอแบบขนคู่ ที่จะสร้างจำนวนชั้นของผ้าได้มากกว่าแบบขนเดี่ยวทำให้มีความนุ่มและทนทานมากกว่า นอกจากนั้นยังช่วยให้ซึมซับน้ำและความชื้นได้ดีกว่า
หลีกเลี่ยงการซักโดยใช้สารเคมี
กระบวนการซักใดๆ ที่ต้องใช้สารเคมีเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น การฟอกขาว ที่จะไปกัดกร่อนเส้นใยของเนื้อผ้า ทำให้เมื่อซักไปซักพักผ้าจะเริ่มมีความแข็งและสาก ซึ่งไม่ต้องให้ถึงมือผู้ที่โชกโชนเรื่องการเข้าพักในโรงแรมก็สามารถรู้สึกได้ หลายๆ โรงแรมจึงหันมาให้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับเส้นใยผ้ามากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผ้าสามารถคงความนุ่มฟูได้นานขึ้น รวมไปถึงปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์หลายตัวก็เริ่มใช้สารเคมีน้อยลงซึ่งจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนอีกด้วย
ซักบ่อยๆ
แม้เราจะบอกว่าหากผ้าโดยสารเคมีบ่อยๆ จะทำให้เนื้อผ้าแข็งและสากขึ้นเรื่อยๆ แต่การไม่ซักหรือซักไม่บ่อยเท่าที่ควรก็สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์แบบเดียวกันได้ โดยผ้าขนหนูจะเป็นตัวสะสมแบ็คทีเรีย คราบเหงื่อ ไขมัน และคราบสกปรกต่างๆ ซึ่งหากปล่อยไว้นานก็สามารถทำให้ผ้าสากได้เหมือนกัน การซักบ่อยๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อใยผ้าก็จะช่วยลดปัญหาตรงนี้ได้
ไม่ใช้ความร้อนสูงเกินไปในการอบผ้า
ด้วยความที่ยุคปัจจุบัน พื้นที่ในการอยู่อาศัยเริ่มปรับให้คล่องตัวมากขึ้น หลายๆ บ้านจึงเลือกประหยัดพื้นที่ด้วยก็การติดตั้งเครื่องอบผ้าที่สามารถซัก อบ และพร้อมใส่ได้ทันที แต่ด้วยความต้องการให้ทันใจ หลายคนจึงเลือกอบผ้าด้วยความร้อนสูง เพื่อให้ผ้าแห้งเร็วๆ ซึ่งหากเป็นกรณีของผ้าขนหนู ความร้อนจะทำให้เส้นใยผ้าถูกทำลายได้ง่ายขึ้น เพราะความร้อนสูงทำให้เส้นใยอ่อนตัว และกลับมาแข็งในเวลาอันรวดเร็ว แถมหากเป็นผ้าขนหนูที่ถักจากโพลีเอสเตอร์ หรือเส้นใยพลาสติก การอบผ้าด้วยความร้อนสูงจะทำให้ผ้าเสียหายในทันที
การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มหรือแผ่นอบผ้าก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยคงความนุ่มฟูของผ้าขนหนูของเราได้ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งแผ่นอบผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มในปัจจุบันยังไม่มีแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากนัก จึงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่านว่าสะดวกใจที่จะใช้หรือไม่ หากพบเจอแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราก็แนะนำมากๆ อีกวิธีเลย
วิธีการเก็บผ้า
หลายคนอาจจะมองข้ามข้อนี้ไป แต่วิธีการเก็บผ้า หากเก็บดีๆ ก็สามารถช่วยให้ผ้านุ่มฟูได้เหมือนใหม่ โดยเราต้องหลีกเลี่ยงวิธีการพับผ้าและซ้อนกันเป็นชั้นๆ เพราะด้วยน้ำหนักของผ้าขนหนูหากซ้อนกันหลายชั้นจะทำให้ผ้าโดนกดทับเป็นเวลานานและสูญเสียความนุ่มฟูไปในที่สุด วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บผ้าขนหนูก็คือการทำให้มีอาการสะสมอยู่ในผ้าให้มากที่สุด เช่น การม้วนผ้าและวางเรียงๆ กัน หรือพับโดยไม่ต้องรีดหรือกดผ้า และซ้อนกันไม่เกินสามชั้น วิธีการนี้จะทำให้มีอากาศช่วยพยุงเนื้อผ้าไม่ให้กดทับกันมากเกินไป ทำให้ผ้าคงสภาพความนุ่มฟูได้ยาวนานที่สุด
สรุป
การทำให้ผ้าขนหนูนุ่มฟูได้ยาวนานเหมือนผ้าขนหนูโรงแรมมีหลายปัจจัยมากๆ ทั้งคุณภาพของผ้า การทอ วิธีการซัก รวมไปถึงวิธีการผ้าขนหนู ซึ่งโรงแรมนั้นจ้างคนมาดูแลตรงนี้โดยเฉพาะทำให้ผ้าขนหนูโรงแรมจึงเป็นไอเทมที่คงความสมูธในการพักผ่อนของเราได้
แต่ก็ใช่ว่าวิธีการเหล่านี้จะเป็นเทคนิคที่ทำได้เฉพาะโรงแรมเท่านั้น หากเราต้องการ เราก็สามารถทำตามได้โดยแทบไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องซักผ้าของเราด้วยซ้ำ ทุกคนสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละบ้านได้เลย!